ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

ลอนดอนในยุคข้าวยากหมากแพง ที่ครั้งหนึ่งต้องกล้ำกลืนกินของสุดแปลกเพื่อประทังชีวิต

👥ยุคแห่งความอดอยาก! มาดูอาหารชาวลอนดอนในยุคข้าวยากหมากแพง ที่ครั้งหนึ่งต้องกล้ำกลืนกินของสุดแปลกเพื่อประทังชีวิต
ประเทศอังกฤษในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ถือว่าอยู่ในช่วงที่อัตราประชากรเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดกว่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงลอนดอนที่มีจำนวนประชากรพุ่งสูงกว่าที่อื่นๆ ด้วยอัตรการก้าวกระโดดนั่นก็ทำให้เกิดสภาวะอาหารขาดแคลนแบบกะทันหัน ราคาวัตถุดิบพากันทยอยขึ้นราคาเนื่องจากความต้องการเพิ่มขึ้น

😁ด้วยเหตุนี้ทำให้บรรดาร้านอาหารรวม
ไปถึงผู้ประกอบการที่ผลิตอาหารนั้นจำเป็นต้องหาวิธีประหยัดเงินค่าวัตถุดิบขึ้นมาด้วยการ “ปลอมปน” สิ่งที่ไม่คิดว่าจะกินได้ลงไปในอาหาร ในร้านเบเกอรี่นั้นพบว่ามีพ่อครัวหัวใสต้องการลดปริมาณแป้งสาลีที่นำมาทำขนมปังด้วยการนำผงชอล์กมาผสมใส่ในแป้งที่ใช้ทำขนมปัง ผลที่ได้ก็คือขนมปังที่แข็งจนคนกินต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนเคี้ยวเนื้อตากแห้ง อย่างช็อคโกแลตที่เป็นอาหารของทุกเพศทุกวันก็พบว่ามีการ
ใช้ผงถ่านมาผสมด้วยเพื่อเพิ่มความหนืดให้กับช็อคโกแลตเหลวก่อนจะนำไปเทลงแม่พิมพ์เช่นกัน ส่วนรสชาตินั้นคงไม่ต้องพูดถึง

🏣ในส่วนของร้านอาหารนั้นดูท่าว่าจะสยองกว่ามาก โดยในปี 1812 เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำนครลอนดอนได้พากันบุกทลายภัตตาคารแห่งหนึ่งหลังจากได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่าภัตตาคารแห่งนี้มีการนำเนื้อสัตว์ชนิดที่ชาวลอนดอนไม่นิยมกินมาแอบอ้างว่าเป็นเนื้อวัว
หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก็ทำให้หลายคนที่เคยมาทานอาหารที่ภัตตาคารแห่งนี้ต้องอ้วกแตกไปตามๆ กันเพราะว่า ภายในขยะหลังร้านนั้นเจ้าหน้าที่พบกับซากของสุนัขและแมวจำนวนหนึ่ง ซึ่งกำลังรอนำไปฝังไว้นอกเมือง โดยทางร้านนั้นจะทำการขึ้นป้ายบอกว่าร้านนี้ขายเมนูเนื้อเน้นๆ และราคายังถูกกว่าร้านอื่นๆ ทุกวันซึ่งทำให้มีผู้มาเข้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก จนทำให้มีผู้สงสัยและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบในเวลาต่อมา

🛁แม้กระทั่งในนมก็ยังมีคนพิเรนทร์ทำด้วยเช่นกัน พ่อค้านมหัวใสจำนวนหนึ่งในลอนดอนนั้นจะมีการนำน้ำเปล่าผสมลงไปและใช้ผงสีขาวจากผนังขูดใส่ลงไปด้วยเพื่อทำให้นมที่ถูกเจือจางด้วยน้ำนั้นดูไม่ใสจนเกินไปและรสชาตินั้นแทบไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่าแต่ทว่ายังพอมีกลิ่นนมเจืออยู่ โดยขายในราคาที่ถูกลงมาหน่อย

🍕ซึ่งถ้าอ่านมาจนถึงตรงนี้ก็คงจะต้องคิดกันว่าทำไมยังขายได้แม้จะเป็นของที่ไร้คุณภาพ เหตุผลก็คือความขาดแคลนอาหารในขณะนั้น ทำให้แม้คนมีเงินเองก็ตามต้องกล้ำกลืนกินลงไปเพื่อเอาชีวิตรอด ซึ่งแน่นอนว่าการกินอาหารแบบนี้ย่อมตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ในช่วงนั้นจึงเกิดโรคท้องร่วงระบาดหนักจนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวมไปถึงเด็กๆ เป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่ายอมท้องเสียดีกว่าท้องหิว

Translate

รายการบล็อกของฉัน