ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วันตังจี่ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วันตังจี่ แสดงบทความทั้งหมด

เทศกาล“วันตังจี่” วันปีใหม่เก่าแก่ที่สุดของจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว มีมาก่อน “ตรุษจีน”

เทศกาล“วันตังจี่” วันปีใหม่เก่าแก่ที่สุดของจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว มีมาก่อน “ตรุษจีน”

วันตังจี่” เป็นวันปีใหม่เก่าแก่ที่สุดของจีน ส่วน “ตรุษจีน” เพิ่งเป็นวันปีใหม่เมื่อ 2,000 กว่าปีนี้เอง

“วันตังจี่” เป็นวันปีใหม่ของจีนมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจว (503 ปีก่อนพุทธศักราช–พ.ศ. 322) นับเป็นเทศกาลปีใหม่เก่าแก่ที่สุดของจีน

“ตังจี่” เป็นชื่อของ 1 ใน 24 ฤดูกาลย่อย ๆ ของจีนที่แบ่งตามสภาวะอากาศ ตังจี่แปลว่า “จุดสูงสุดของฤดูหนาว” วันตังจี่นี้ช่วงเวลากลางคืนยาวที่สุดกลางวันสั้นที่สุด ปกติวันตังจี่แต่ละปีจะตรงกับวันที่ 22 หรือ 23 ธันวาคม แต่ปีใดที่เดือนกุมภาพันธุ์มี 29 วัน เทศกาลตังจี่ก็จะเป็นวันที่ 21 [เช่นปี 2564 เป็นอธิกมาส จะตรงกับวันที่ 21 ธันวาคม ส่วนปี 2565 ตรงกับวันที่ 22 ธันวาคม]

สาเหตุที่ถือวันตังจี่เป็นวันปีใหม่ เพราะตังจี่เป็นฤดูย่อยแรกที่จีนพบจากการวัดเงาแดด จึงถือวันตังจี่เป็นวันปีใหม่ตามหลักดาราศาสตร์ และใช้เป็นหลักบอกเวลาฤดูย่อยๆ อื่น นอกจากนี้เมื่อถึงวันตังจี่เกษตรกรก็เสร็จการทำนาทำไร่มีเวลาว่าง สำหรับการเฉลิมฉลอง และมีพืชผลบริบูรณ์ที่จะใช้เซ่นไหว้บรรพชนและเทพเจ้า

สำหรับเมืองไทยหลายคนรู้จักเทศกาลนี้ในชื่อว่า “เทศกาลขนมอี๋” บ้างที่คนเรียก “เทศกาลขนมบัวลอย” เพราะขนมประจำเทศกาล ที่มีชื่อจริงว่า “อี๊” แต่คนไทยออกเสียงเป็น “อี๋” นอกจากนี้ขนมอี๋ของจีนกับขนมบัวลอยของไทยก็ทำจากแป้งข้าวเหนียวเหมือนกัน, ปั้นเป็นลูกกลมเหมือนกัน ต่างแค่บัวลอยไทยใส่น้ำกะทิ ขนมอี๋ใส่แค่น้ำตาล

ขนมบัวลอยเป็นขนมประจำเทศกาลตังจี่ ที่แต่ละบ้านต้องทำไหว้บรรพบุรุษ และมีคำพูดว่า “กินขนมบัวลอยตังจี่ อายุเพิ่มขึ้นอีกปี” นอกจากนี้ขนมบัวลอยยังเป็นขนมมงคลที่ใช้ในงานแต่งงาน, งานวันเกิดและใช้รับรองญาติพี่น้องจากแดนไกลที่กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ฯลฯ

ส่วนวันตรุษจีนเพิ่งเปลี่ยนมาเป็นวันปีใหม่ของจีนในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (พ.ศ. 340-551) หรือประมาณ 2,000 กว่าปีนี้เอง

Translate

รายการบล็อกของฉัน