ใครๆๆ.. คือ คนคิดค้น เครื่องดื่ม " โค้ก "
น้ำอัดลมที่เรากินกันทุกวัน ?
จุดกำเนิดของมัน.. ใครจะเชื่อว่า มาจาก
"ร้านขายยา "และความลับที่หลายๆ
คนอาจยังไม่รู้
น้ำอัดลมที่เรากินกันทุกวัน ?
จุดกำเนิดของมัน.. ใครจะเชื่อว่า มาจาก
"ร้านขายยา "และความลับที่หลายๆ
คนอาจยังไม่รู้
น้ำอัดลมสีดำยอดฮิต ของคนทั้งโลก
มีจุดกำเนิดมาจากร้านขายยาเล็กๆ
ที่มีชื่อว่า Jacobs' Pharmacy ในเมืองแอตแลนตาเจคอบส์ ฟาร์มาซี
มีจุดกำเนิดมาจากร้านขายยาเล็กๆ
ที่มีชื่อว่า Jacobs' Pharmacy ในเมืองแอตแลนตาเจคอบส์ ฟาร์มาซี
ในปี ค.ศ. 1886
จอห์น แพมเบอร์ตัน (John Pemberton)
เภสัชกร ได้ลองผิดลองถูก โดยนำวัตถุดิบ
จากธรรมชาติชนิดต่างๆ มาผสมรวมกัน
เป็นน้ำอัดลมที่มีกลิ่น และเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนในที่สุดกลายมาเป็นน้ำอัดลมสีดำ
ที่ครองใจคนทั้งโลก ในเวลาต่อมานั่นเอง
ที่ใช้คำว่าลองผิดลองถูก ก็เพราะว่า
ในการหาสูตรผสมในครั้งแรกนั้น
วัตถุดิบแต่ละชนิดล้วนแต่แปลกๆ
ห่างไกลจากความเป็นโคคา-โคล่า มาก
ไม่ว่าจะเป็น ยาแก้ไอ ยาเกี่ยวกับตับ
โคโลญจน์ โลชั่นหรือว่าออยส์ชนิดต่างๆ
จนในที่สุด ดร. จอห์น แพมเบอร์ตัน
ก็ได้สูตรที่แน่นอน โดยคัดสรร วัตถุดิบจากธรรมชาติที่ให้กลิ่นและรสดีที่สุด จากทั่วทุกมุมโลกนำมาผสมผสานกัน จนได้เครื่องดื่ม
ที่ให้ความสดชื่น แบบมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว
ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ผ่านการเติมแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำเชื่อม
ที่มีส่วนผสม ของ คาเฟอีน
น้ำมะนาว สารสะกัดจากใบโคล่า
และสารสะกัด จากเมล็ดโคคาหรือคาเคา
จนกลายเป็นเครื่องดื่มซู่ซ่าชื่นใจ
ตอนนั้น ดร. จอห์น แพมเบอร์ตัน
ยังไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อ เจ้าเครื่องดื่มรสซาบซ่าส์นี้ว่าอะไรดี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1929 ผู้ช่วยของเขาที่ชื่อ แฟรงค์ โรบินสัน
จนในที่สุด ดร. จอห์น แพมเบอร์ตัน
ก็ได้สูตรที่แน่นอน โดยคัดสรร วัตถุดิบจากธรรมชาติที่ให้กลิ่นและรสดีที่สุด จากทั่วทุกมุมโลกนำมาผสมผสานกัน จนได้เครื่องดื่ม
ที่ให้ความสดชื่น แบบมีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว
ไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ผ่านการเติมแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำเชื่อม
ที่มีส่วนผสม ของ คาเฟอีน
น้ำมะนาว สารสะกัดจากใบโคล่า
และสารสะกัด จากเมล็ดโคคาหรือคาเคา
จนกลายเป็นเครื่องดื่มซู่ซ่าชื่นใจ
ยังไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อ เจ้าเครื่องดื่มรสซาบซ่าส์นี้ว่าอะไรดี จนกระทั่งปี ค.ศ. 1929 ผู้ช่วยของเขาที่ชื่อ แฟรงค์ โรบินสัน
จึงเสนอชื่อ Coca-Cola
พร้อมกับออกแบบโลโก้ รวมถึงสโลแกน
"The Pause that Refreshes" ซึ่งโลโก้ดังกล่าวยังคงใช้มาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
จอห์น แพมเบอร์ตัน เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1888 เพียงแค่สองปีถัดมา หลังจากขายกิจการให้กับ เอซา กริกส์ แคนด์เลอร์
(Asa Griggs Candler) นักธุรกิจ
ที่เป็นผู้พัฒนา และบุกเบิก ยี่ห้อนี้ ขึ้นมา
แม้เวลาจะผ่านมากว่า 128 ปีแล้ว
แต่โค้กก็ยังคงเป็นเครื่องดื่ม ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก โดยปราศจากวัตถุกันเสียและสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์ นอกจากนี้แล้วสีน้ำตาลเข้มของโค้ก ที่เราคุ้นเคย
ก็มาจากสีของคาราเมล หรือสีของน้ำตาล
ที่ผ่านการเคี่ยว จนเหนียวข้นนั่นเอง
จนกระทั่งปัจจุบัน โคคา-โคล่า
มีจำหน่ายใน 207 ประเทศทั่วโลก
ความลับอันเป็นอมตะของ “โค้ก”
แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่าร้อยปีแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือ รสชาติของ โคคา-โคล่า ที่เป็นอมตะมานับร้อยกว่าปี ตลอดการก่อตั้งบริษัทขึ้นมา มีคนรู้สูตรกันเพียงแค่ไม่กี่คน
พร้อมกับออกแบบโลโก้ รวมถึงสโลแกน
"The Pause that Refreshes" ซึ่งโลโก้ดังกล่าวยังคงใช้มาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
จอห์น แพมเบอร์ตัน เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1888 เพียงแค่สองปีถัดมา หลังจากขายกิจการให้กับ เอซา กริกส์ แคนด์เลอร์
(Asa Griggs Candler) นักธุรกิจ
ที่เป็นผู้พัฒนา และบุกเบิก ยี่ห้อนี้ ขึ้นมา
แม้เวลาจะผ่านมากว่า 128 ปีแล้ว
แต่โค้กก็ยังคงเป็นเครื่องดื่ม ที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลก โดยปราศจากวัตถุกันเสียและสารแต่งกลิ่นสังเคราะห์ นอกจากนี้แล้วสีน้ำตาลเข้มของโค้ก ที่เราคุ้นเคย
ก็มาจากสีของคาราเมล หรือสีของน้ำตาล
ที่ผ่านการเคี่ยว จนเหนียวข้นนั่นเอง
จนกระทั่งปัจจุบัน โคคา-โคล่า
มีจำหน่ายใน 207 ประเทศทั่วโลก
ความลับอันเป็นอมตะของ “โค้ก”
แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่าร้อยปีแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยก็คือ รสชาติของ โคคา-โคล่า ที่เป็นอมตะมานับร้อยกว่าปี ตลอดการก่อตั้งบริษัทขึ้นมา มีคนรู้สูตรกันเพียงแค่ไม่กี่คน
และก็ถูกเก็บเป็นความลับสุดยอดในห้องที่มี
ระดับความปลอดภัยแบบสูงสุด สูตรส่วนผสม
ของโคคา-โคล่า ที่ส่งไปผสมทั่วโลก
ถูกเก็บไว้ในตู้เชฟ ใส่รหัสความปลอดภัย
ซึ่งยากต่อการที่จะไขเข้าไปได้ แล้วก็เก็บไว้
ที่สำนักงานใหญ่เพียงที่เดียวเท่านั้น
นอกจากห้องเก็บสูตรลับแล้ว ยังมีห้องประวัติศาสตร์
ซึ่งเป็นห้องที่เก็บรวบรวม
สิ่งของที่เกี่ยวกับ น้ำอัดลมชื่อดัง
จากทั่วโลกไว้ในห้องนี้เพียงห้องเดียว
หากนำ ชั้นเก็บของมาต่อกัน
จะมีความยาวถึง 7 กิโลเมตร
มีสิ่งของมากกว่า 1 ล้านชิ้น
ไม่ว่าจะเป็น ของเล่น ของใช้
รูปภาพ ป้ายโฆษณา บางชิ้นมีอายุนับร้อยปี
รวมถึงขวดโคคา-โคลล่า ในทุกปีจากทั่วทุกมุมโลก
ระดับความปลอดภัยแบบสูงสุด สูตรส่วนผสม
ของโคคา-โคล่า ที่ส่งไปผสมทั่วโลก
ถูกเก็บไว้ในตู้เชฟ ใส่รหัสความปลอดภัย
ซึ่งยากต่อการที่จะไขเข้าไปได้ แล้วก็เก็บไว้
ที่สำนักงานใหญ่เพียงที่เดียวเท่านั้น
นอกจากห้องเก็บสูตรลับแล้ว ยังมีห้องประวัติศาสตร์
ซึ่งเป็นห้องที่เก็บรวบรวม
สิ่งของที่เกี่ยวกับ น้ำอัดลมชื่อดัง
จากทั่วโลกไว้ในห้องนี้เพียงห้องเดียว
หากนำ ชั้นเก็บของมาต่อกัน
จะมีความยาวถึง 7 กิโลเมตร
มีสิ่งของมากกว่า 1 ล้านชิ้น
ไม่ว่าจะเป็น ของเล่น ของใช้
รูปภาพ ป้ายโฆษณา บางชิ้นมีอายุนับร้อยปี
รวมถึงขวดโคคา-โคลล่า ในทุกปีจากทั่วทุกมุมโลก
รวมถึงขวดที่เคยไปท่องอวกาศ
กับยาน ชาเลนเจอร์ มาแล้ว
อย่าง “สเปซแคน” ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1985 เพื่อให้นักบินอาวกาศสามารถนำเครื่องดื่มยอดฮิตนี้ไปดื่มนอกโลก โดยขวดจะออกแบบมาเป็นพิเศษ
ให้สามารถเปิดดื่มในสภาวะไร้น้ำหนักได้
เหมือนใน ภาพที่เอามาให้ดู นั่นแหละครับ
โดยใส่น้ำอัดลมเข้าไปข้างใน แล้วก็เปิดดื่ม
ตรงปลายหัวฉีดนั่นเองครับ.
cr.maanow
กับยาน ชาเลนเจอร์ มาแล้ว
อย่าง “สเปซแคน” ที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1985 เพื่อให้นักบินอาวกาศสามารถนำเครื่องดื่มยอดฮิตนี้ไปดื่มนอกโลก โดยขวดจะออกแบบมาเป็นพิเศษ
ให้สามารถเปิดดื่มในสภาวะไร้น้ำหนักได้
เหมือนใน ภาพที่เอามาให้ดู นั่นแหละครับ
โดยใส่น้ำอัดลมเข้าไปข้างใน แล้วก็เปิดดื่ม
ตรงปลายหัวฉีดนั่นเองครับ.
cr.maanow